เปิดครัว Chef’s Table ค้นหาเคล็ดลับความอร่อยของเชฟอาร์ตสุดเนี๊ยบ
วันนี้ผมกับเพื่อนได้มีโอกาสมาตะลุยถึงครัวของเชฟอาร์ต-ศุภมงคล ศุภพิพัฒน์ สุดเนี๊ยบ ยังมีดีกรีเป็นถึงอาจารย์สอนทำอาหารที่โรงเรียนสอนการประกอบอาหารเลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิตได้มาชิมลิ้มลองความอร่อยแบบใกล้ชิดติดครัวกันเลยทีเดียว ได้เห็นการเตรียมวัตถุดิบ ขั้นตอนการปรุงแบบเปิดเผยไม่มีปิดบังเลย แบบนี้ต้องเยี่ยมเกินบรรยายแน่ ๆ และแถมยังเปิดเผยแหล่งที่มาของวัตถุดิบให้เราทราบด้วย ซึ่งอาจจะบังเอิญหรืออะไรไม่ทราบ มีวัตถุดิบในการปรุงอาหารหลายอย่างที่ส่งตรงมาจาก สิงห์ปาร์ค-ไร่บุญรอด นั้นเอง ซึ่งผมจำได้ว่าผมได้ไปชมการเพราะปลูกวัตถุดิบเหล่านี้มากับที่บ้านเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านด้วยซิครับ มันมาจากโครงการกิจการเพื่อสังคม หรือ Social enterprise สิงห์ปาร์ค-ไร่บุญรอด นั้นเอง
ซึ่งวัตถุดิบที่ผมเคยเห็นอยู่บนต้นวันนี้จะถูกเชฟอาร์ต นำมาปรุงเป็นเมนูสุดหรูให้ผมและเพื่อน ๆ ได้ลิ้มลอง มาดูกันดีกว่าครับว่าวันนี้เชฟอาร์ตจะทำอะไรให้ผมทานบ้าง เชฟเลยบอกว่าเมนูวันนี้โจทย์จะเป็น วัตถุดิบจาก โครงการกิจการเพื่อสังคม หรือ Social enterprise สิงห์ปาร์ค-ไร่บุญรอด
เชฟอาร์ตกำลังขมักเขม้นในการเตรียมอาหารให้ผมและเพื่อนอย่างตั้งใจเห็นแล้วอยากลิ้มรสอาหารไว ๆ จังเลยครับ
เชฟได้จัดไวน์ ไว้ดื่มพร้อมอาหารให้พวกเราด้วยนะครับ
วัตถุดิบหลักที่มาจากโครงการกิจการเพื่อสังคม หรือ Social enterprise สิงห์ปาร์ค-ไร่บุญรอด วัตถุดิบหลักมี 1. ผักเคล – มีคุณประโยชน์ทางอาหารมากมาย 2.พริกฮาบาเนโร่ – พริกที่มีความเผ็ดร้อนมากกว่า พริกขี้หนู 10 เท่า 3.พุทราคัดพิเศษ
เริ่มด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยเป็นขนมปังฝรั่งเศสสไลด์ทานกับ ซอสที่ทำจากผักแคล ตักซอสราดบนขนมปังได้รสชาติแปลกใหม่ถ้าไม่บอกรู้เลยว่า ซอสทำมาจากผักเคล เพราะเชฟบรรจงปรุงแต่งได้อย่างกลมกล่อมเรียกน้ำย่อยได้ดีจริง ๆ
เมนูแรก Foie gras black truffle mousse with port wine reduction and truffle foam ที่เห็นเล็ก ๆ แบบนี้แต่รสละมุนนุ่มเนียนมากเลยครับ รสชาติ
เมนูที่ 2 Seared scallop with Confit habanero garlic puree and juju bee salad เมนูหอยเชลล์ที่เจียได้พอดีนุ่มได้ใจในซอสจากพริกฮาบาเนโร่ที่เชฟได้นำมาทำให้อย่างลงตัว มีความเผ็ดร้อนเหลือเพียงนิดเดียว บวกกับพุทราสลัดทานคู่กันเพื่อตัดความเผ็ดร้อนของฮาบาเนโร่ได้เป็นอย่างดีเลย
เมนูที่ 3 Kale velouté with salmon confit caviar เชฟได้นำผักเคลมาทำซุปได้อย่างลง มีความหอมและมีความนุ่มละมุนไม่เหมือนทานผักเลย และปลาแซลมอนที่เจียได้สุกกำลังดี เมื่อทานพร้อมกับซุปจะรู้สึกถึงความมันที่อยู่ในเนื้อปลาและความละมุนของซุปผักเคล ลงตัวอย่างบอกไม่ถูกจริงครับ
เมนูที่ 4 Homemade fettuccine lobster with kale pesto cream sauce เส้น fettuccine ที่เชฟผัดคลุกเคลาเนื้อกุ้งล็อบสเตอร์กับซอสครีมซอสเพสโต้ผักเคลและมียังมีก้ามกุ้งล็อบสเตอร์ชิ้นโตวางอยู่ข้างบน ต้องขอบอกเลยว่าเชฟปรุงได้อย่างลงตัวถูกปากผมมาก ๆ เส้นนุ่มหนึบซอสรสดีพร้อมกุ้งล็อบสเตอร์ เนื้อแน่น
เมนูที่ 5 Red wine poached Aus. Grain fed Lamp with creamy mashed potato and roasted vegetable เมนูนี้ต้องถือว่าเป็นเมนูพิเศษสำหรับผมคนเดียว เพราะมีผมคนเดียวที่ไม่ทานเนื้อ เชฟเลยทำเนื้อแกะให้ผมเป็นพิเศษ ต้องขอบคุณเป็นอย่างมากเลยครับ เนื้อแกะที่ปรุงได้พอดีนุ่มไม่เหนียวเลยและไม่มีกลิ่นเลย ทานกับซอสไวน์แดงและผักย่างได้อย่างลงตัวมากเลยครับ
และเมนูขนมหวานที่เชฟอาร์ตเตรียมให้คือ Rasberry Blueberry และ Passion fruite กับไอศครีมวนิลาและชอกโกแลตลาวาที่อบมาร้อน ทานพร้อมกับไอศครีมวนิลลาได้อย่างลงตัว และยังมีซอสเสาวรส ราสเบอรี่สดและบูลเบอรี่สด ทานพร้อมกันรสชาติลงตัวอย่างพอดีมากครับ
วันนี้ต้องบอกว่าเต็มอิ่มจากความอร่อยที่เชฟอาร์ตได้บรรจงรังสรรค์เมนูพิเศษจากวัตถุดิบจากโครงการกิจการเพื่อสังคม หรือ Social enterprise ของสิงห์ปาร์ค-ไร่บุญรอด ได้อย่างเลิศหรูสมกับที่เป็นเชฟที่มีชื่อเสียงของเมืองไทยให้ผมและเพื่อนได้ทานอย่างมีความสุขและได้เห็นวิธีการปรุงอาหารของเชฟแบบสด ๆ ปกติเราจะเห็นแต่ร้านอาหารญี่ปุ่นซะส่วนใหญ่ แต่นี้เป็นการได้เห็นอาหารปรุงอาหารสไตล์ยุโรปแบบสด ๆ ให้เราได้ทาน นี้ประทับใจมากเลยครับ ต้องขอบคุณเชฟอาร์ตเป็นอย่างมากจริง ๆ ครับ และพี่ ๆ ใจดีด้วยนะครับ